ในชีวิตประจำวันของเรานั้นไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ความสวยสดใสสุขภาพดีนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แค่เราเดินออกไปข้างนอกต้องพบเจอกับผู้คนหลากหลาย เมื่อเราดูดีก็ย่อมเป็นที่สนใจแก่ผู้พบเห็น และการมีสุขภาพที่ดีนั้นยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทำให้เราอารมณ์ดีได้อีกด้วย
จากนี้เราจะมาดูกันว่าเราจะต้องดูแลตัวเองอย่างไรให้มีสุขภาพที่ดีนั้นต้องมาจากปัจจัยหลายๆอย่าง ซึ่งมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
สำหรับ เคล็ดลับข้อแรก นั้นคือเรื่องของ “อาหารการกิน” อย่าง ที่ทราบกันดีว่าความต้องการอาหารในแต่ละคนและแต่ละช่วงวัยนั้นมีความต้องการ ไม่เท่ากัน ดังนั้นแนะนำว่า ทางที่ดีควรเลือกรับประทานผักและผลไม้ที่ปลอดสารพิษ เช่น ผักหลากสีเพราะผักเหล่านี้อุดมไปด้วยสารแคโรทีนที่ดีต่อผิว ขณะเดียวกันก็ควรเช็คตัวเองด้วยว่าตนเองแพ้อาหารชนิดใดหรือไม่ เพราะในปัจจุบันผู้หญิงส่วนใหญ่จะแพ้อาหารประเภทนมหรือไข่และขนมปังจำนวนมาก และอาการแพ้นี้อาจสะสมและแสดงให้เห็นได้ทางผิวหนัง
เคล็ดลับข้อที่ 2 คือ “การดื่มน้ำ” ควร ดื่มน้ำอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน เพราะผิวต้องการน้ำไปหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ พร้อมกันนี้กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ดื่มน้ำน้อยจะมีปัสสาวะสีเข้ม ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นการบอกให้ทราบว่าร่างกายต้องการน้ำ ส่วนผู้ที่ดื่มน้ำเพียงพอจะมีปัสสาวะสีจาง
เคล็ดลับที่ 3 คือ “การพักผ่อน” ก็ เป็นสิ่งที่ต้องเอาใจใส่ไม่แพ้กัน เพราะการที่จะมีผิวดีนั้นควรให้ความสำคัญกับช่วงเวลานอน ซึ่งช่วงเวลานอนที่ดีที่สุดคือ 22.00-02.00 น. เพราะช่วงเวลาดังกล่าวร่างกายจะหลั่งสารเมลาโทนินออกมามากที่สุด ทำให้ร่างกายเราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และที่สำคัญแนะนำว่าควรนอนให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
เคล็ดลับข้อที่ 4 คือ “การออกกำลังกาย” ซึ่ง การออกกำลังกายนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่หากมากหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน ดังนั้นจึงแนะนำว่า อย่างน้อยควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30-60 นาที พร้อมกันนี้กล่าวว่า การออกกำลังกายที่ดีที่สุดนั้น คือการออกกำลังกายที่ใช้ออกซิเจน และต้องไม่หักโหมจนเกินไป แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง 30 นาทีขึ้นไปในแต่ละครั้ง เพื่อให้ผิวขับของเสียออกมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ผิวสดใสขึ้น
เคล็ดลับข้อที่ 5 คือ “หลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย” เช่น ความเครียด แสงแดด รวมถึงมลภาวะ เช่น ควันพิษ หรือยาที่รับประทานเข้าไปมากๆ จนเกิดเป็นของเสียที่ร่างกายต้องขับออกมา ซึ่งหากร่างกายต้องแบกรับอนุมูลอิสระเหล่านี้เกินขนาดจะส่งผลเสียต่อผิว ขณะเดียวกันยังเป็นสาเหตุของความชราอีกด้วย
เคล็ดลับข้อที่ 6 คือ “เสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ” ด้วย การเลือกรับประทานผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มของเบอรี่ต่างๆ หรือจำพวกกลุ่มถั่ว และในปัจจุบันนั้นก็มีสารแอนติออกซิแดนต์ เช่น กลูต้าไธโอน, โคเอนไซม์คิวเทน เป็นต้น ซึ่งสารดังกล่าวนั้นสามารถช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยของผิวได้
เคล็ดลับข้อที่ 7 คือ “การล้างพิษ” เพื่อสร้างสมดุลช่วยให้ร่างกายสดชื่น และมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง ซึ่งมีให้เลือกหลายวิธี เช่น การสวนลำไส้ และการรับประทานวิตามิน เป็นต้น
เมื่อรู้เคล็ดลับของการทำให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดี สดใส ชวนมองแล้ว ก็อย่าลืมนำไปใช้กันนะคะ
ทีนี้ก็ได้เวลามาดูแลผิวหน้ากันบ้างแล้วนะคะ เพราะผิวหน้าสำคัญมากค่ะในการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราเอง วันนีผู้เขียนจึงมีเคล็ดลับการดูแลผิวหน้ามาฝากกันค่ะ
สวยดูดีด้วยการดูแลผิวหน้าให้สดใส
ผิวหน้าของเราต้องการการบำรุง และทำความสะอาดที่ถูกวิธี และมีประสิทธิภาพอย่างครบถ้วน ในแต่ละขั้นตอนของการบำรุง และทำความสะอาด ควรดูแลและให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อความเปล่งประกายของผิวที่เป็นนิรันดร์
ข้อควรรู้ในการปรนนิบัติผิวหน้าด้วยการบำรุงอย่างถูกวิธี
-ควรเลือกครีมที่มีประสิทธิภาพเข้ากับสภาพผิวหน้าของตัวคุณเอง
-หากผิวหน้ามัน ควรเลือกครีมที่ไม่มีส่วนประกอบของ Oil เป็นหลัก
-หากผิวหน้าแห้ง ควรเลือกครีมที่มีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นต่อสภาพผิว
-หากผิวแพ้ง่าย ควรมองหาครีมที่ปราศจากแอลกอฮอล์ หรือทำมาจากธรรมชาติ
หลังจากเจอกับมลภาวะมาทั้งวัน สิ่งที่ควรทำเพื่อการดูแลผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส ไม่อุดตัน คือ การทำความสะอาดผิวหน้า เลือกการดูแลอย่างถูกวิธี สาว ๆ ท่านใดแต่งหน้าเป็นประจำควรจะมีโทนเนอร์ หรือโฟมล้างหน้าเพื่อช่วยขจัดเครื่องสำอางให้ออกไปจากผิวหน้า ส่วนสาว ๆ ที่ไม่แต่งหน้า เพียงแค่ใช้น้ำสะอาดล้างหน้าก็เพียงพอแล้วค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีการดูแลผิวด้วยสูตรการมาร์คหน้า ให้ใบหน้าสดใสเป็นที่ชวนมองของใครๆ ซึ่งวันนี้นะคะผู้เขียนได้อ่านบทความทีมีประโยชน์จึงอยากจะนำมาฝากผู้อ่านนำไปใช้กันบ้างจะมีวิธีไหนบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ
สูตรผิวสวยสูตรแรกนะคะ
โดยใช้ส่วนผสมแค่ 2 อย่าง และใช้เวลาเตรียมการแค่ 2 นาที!!
"ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยผ่อนคลายผิวของคุณ จากการใช้เครื่องสำอางค์มากมาย.. "
ซึ่งส่วนผสมมีดังนี้
- ไข่ขาวจากไข่ไก่ 2 ฟอง แยกจากไข่แดงไว้ในชาม
- โยเกิร์ตธรรมดา 2 ช้อนโต้ะ (โยเกิร์ตที่ไม่ปรุง)
มาดูวิธีทำกันบ้างค่ะ
แยกไข่ขาวและไข่แดง เตรียมไว้ในถ้วย และผสมโยเกิร์ต 2 ช้อนโต้ะลงไป ใช้ช้อนคนโยเกิร์ตให้เข้ากับไข่ดาว เมื่อเข้ากันแล้วก็นำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น เมื่อล้างหน้าเสร็จแล้ว ก็นำผ้าขนหนูชุปน้ำอุ่นเช็ดหน้าเบาๆ และเอาผ้าขนหนูชุปน้ำอุ่นวางไว้บนใบหน้าซักพัก(1-2 นาที)
มาดูสูตรที่สองกันบ้างค่ะ
สูตรผิวสวยสูตรที่สอง
เหมาะสำหรับการดูดซึมของเสียจากผิวหน้า
เป็นสูตรผิวสวยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นางแบบเลยล่ะค่ะ
มาดูส่วนผสมกันบ้างค่ะ
- โยเกิร์ตธรรมดา 1 ช้อนโต้ะ
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
ซึ่งวิธีทำมีดังนี้นะคะ
ผสมโยเกิร์ตเข้ากับน้ำผึ้ง นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น
และนำผ้าชุบน้ำอุ่นมาปิดหน้าทิ้งไว้ 1-2 นาที(สำหรับผิวแห้งควรเพิ่มน้ำผึ้งเป็น 2 ช้อนชา,ส่วนผิวมันให้เติมน้ำมะนาวครึ่งช้อนชา)
สูตรผิวสวยที่นำมาฝากนี้ สามารถทำได้เองที่บ้าน และทำได้ง่ายมาก ใช้เวลาไม่มากอีกด้วย สูตรผิวสวยดีๆแบบนี้อย่าลืมนำไปฝากเพื่อนๆทำด้วยนะจ้ะ^^
วันนี้นะค่ะผู้เขียนมีอาหารที่สาวๆหลายคนจะต้องสนใจในการลดน้ำหนักมาฝากกันค่ะ
สาวๆหลายคนที่มีปัญหากลุ้มใจกับการลดน้ำหนัก
ต้องเลิกตามใจปากเป็นพิเศษ อะไรที่อยากกินก็ต้องลด ละ เลิก แต่อย่าเครียดไปเลยค่ะ
เพราะผู้เขียนมีสุดยอดอาหารดีๆที่กินแล้วไม่อ้วนมาฝากกันถึง 20 ชนิดเลยทีเดียว ไปเลือกกันดีกว่าว่าเราจะหม่ำๆ
อะไรได้บ้างในช่วงลดน้ำหนักนี้
1 . ไข่ ไข่มีโปรตีนสูงมากๆทำให้อิ่มท้องเราจึงไม่กินจุบจิบระหว่างมื้อ
กินไข่วันละประมาณ 2 ฟอง ด้วยวิธีการปรุงสุกที่ไม่ใช้น้ำมัน ไม่ว่าจะเป็น ไข่ต้ม ไข่ปิ้ง หรือไข่ตุ่น
แค่นี้ก็อิ่มและไม่อ้วนด้วยไข่แล้วค่ะ
2.
ข้าวโอ๊ต เป็นอีกหนึ่งอาหารที่ไม่ผ่านการขัดสีที่ขอแนะนำว่าต้องกินในช่วงไดเอตค่ะ
โดยเฉพาะมื้อสำคัญอย่างมื้อเช้าทั้งอร่อยทั้งมีประโยชน์
ที่สำคัญไม่อ้วน!!!
3. แซลมอน เป็นปลารสชาติเยี่ยม ประโยชน์ยอด
4.
แอปเปิ้ล “ An apple a day keeps the doctor away ” ยังเป็นประโยคที่ใช้ได้อยู่จริงค่ะ กินแอปเปิ้ลทั้งไม่อ้วน
ทั้งได้ประโยชน์จ้า
5. บลูเบอร์รี่ เป็นอีกหนึ่งผลไม้รสชาติอร่อยที่กินแล้วไม่อ้วนแต่อย่าเอาไปราดบนชีสเค้กแล้วกันนะคะ
6. ทับทิม ผลไม่ที่คนไทนคุ้นเคยดีค่ะ รสชาติดี
และไม่ทำให้อ้วนคือเป็นผลไม้ที่มีน้ำอยู่เยอะมากนั่นเองค่ะ
7. อัลมอนด์ แคลอรี่เกือบทั้งหมดจากถั่วอัลมอนด์มาจากไฟเบอร์ที่ช่วยให้อิ่ม
การกินอัลมอนด์จึงไม่ทำให้อ้วนจ้า
8.
พริก รสชาติอาหารที่เผ็ดร้อนทำให้การเผาผลาญในร่างกายดีขึ้นค่ะ
เพราะฉะนั้นกินอาหารรสเผ็ดโดยการเติมพริกเข้าไปอีกนิด ช่วยลดความอ้วนได้จ้า
9. โยเกิร์ต
โยเกิร์ตที่ดีที่สุดในการกินช่วงลดน้ำหนักคือรสธรรมชาติค่ะ เพราะจะมีน้ำตาลอยู้น้อยมากๆเลยทำให้ไม่อ้วน
10. ปลาซาร์ดีน กรดไขมัน
และโอเมก้า ทำให้ปลาซาร์ดีนเป็นอาหารที่กินแล้วไม่อ้วนและยังอิ่มท้องด้วยนะคะ
11. น้ำมันมะกอก เป็นการเพิ่มไขมันให้ร่างกายแบบไม่อ้วนจ้า
เป็นไขมันจากธรรมชาติที่มีประโยชน์สุดๆ
ใช้ผัดทอดได้ตามสะดวกเลยค่า
12. ฟัก
เป็นผักชนิดที่มีน้ำอยู่เยอะมาก เอามาทำแกงจืดยิ่งอุ้มน้ำไปใหญ่ ทำให้อิ่มท้องโดยไม่จำเป็นต้องกินข้าวเข้าไปเยอะแยะและที่สำคัญไม่อ้วนค่า
13. อโวคาโด เนื้อของอโวคาโดนั้น
ไม่มีโคเลสเตอรอล และไขมันที่อยู่ในอโวคาโดยังไม่เป็นไขมันที่มีประโยชน์สุดๆอีกด้วยค่า
14. ดาร์คช็อกโกแลต มองหาขนมแก้เซ็งในยามบ่ายที่ท้องเริ่มหิว
ต้องดาร์คช็อกโกแลตเลยค่ะ
ช่วยเพิ่มการเผาผลาญและอารมณ์ดีขึ้นด้วยจ้า

.jpg)

15.
ถั่ว
ไม่ว่าจะมาสายพันธุ์ไหน สีอะไร บรรดาพืชตระกูลถั่วทั้งถั่วเหลือง ถั่วเขียว
และถั่วแดง ล้วนกินได้
หมดในช่วงไดเอทอิ่มท้องสุดๆอีกต่างหากนะคะ
16. เต้าหู้ อาหารยอดนิยมของชาวจีนนี่แหละคั่ที่ช่วยไดเอทได้ดี อิ่มท้อง รสชาติอร่อย
ผัดกับถั่วงอกหรือแกงจืดเต้าหู้ยิ่งเป็นอาหารจานเด็ดเลยล่ะค่ะ
17. ผลไม้ตระกูลส้ม
รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ จะช่วยให้อารมณ์สดชื่น
และยังช่วยลดโคเลสเตอรอลและไขมันในเส้นเลือดด้วยค่ะ
18.ชาเขียว เครื่องดื่มที่ดีในช่วงลดน้ำหนัก
นอกจากน้ำเปล่าใสๆ ไร้ไขมัน ก็ยังมีชาเขียวอีกด้วยนะคะ และที่สำคัญต้องไม่เติมนมลงไปค่ะ
ถึงจะไม่ทำให้อ้วนของจริง
19. ซุป ซดอุ่นๆ ก่อนจะกินอาหารจานหลัก
จะช่วยให้อิ่มง่ายขึ้นจึงไม่อ้วนค่ะ และควรเป็นซุปใสนะคะ
ไม่เอาซุปข้นๆจ้า
20.
องุ่น ปิดท้ายด้วยผลไม้ฉ่ำน้ำอย่างองุ่นค่ะ
เป็นของว่างที่ขอบอกว่าโอเคมากๆ ยิ่งถ้าเป็นองุ่นอบแห้งหรือที่เราเรียกว่าลูกเกด
ยิ่งอร่อยดีและมีประโยชน์จ้า
เห็นมั้ยคะว่าบางทีการลดน้ำหนักไม่จำเป็นต้องอด..อด..อด
เสมอไป มีอาหารจานอร่อยๆ อีกหลากหลา ยอย่างที่เรากินได้และไม่ทำให้อ้วน
เมื่อรู้เคล็ดลับอย่างนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไมรีบนำไปใช้ ชอบแบบไหนเลือกได้เลยค่ะ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น